คู่มือศัพท์หุ้นสำหรับมือใหม่: เริ่มลงทุนอย่างมั่นใจในไม่กี่นาที!

การลงทุนในหุ้นถือเป็นหนึ่งในวิธีสร้างรายได้ที่น่าสนใจ แต่สำหรับมือใหม่ การเริ่มต้นอาจดูซับซ้อนจากศัพท์เฉพาะและข้อมูลมากมายที่ต้องเรียนรู้ วันนี้เราจะมาอธิบายศัพท์พื้นฐานในการซื้อขายหุ้นและการรับปันผลแบบเข้าใจง่าย เพื่อช่วยให้คุณเริ่มต้นลงทุนได้อย่างมั่นใจ!

1. หุ้น (Stock)

หุ้นคือหน่วยลงทุนในบริษัท เมื่อคุณซื้อหุ้น คุณจะกลายเป็นผู้ถือหุ้นหรือเจ้าของส่วนหนึ่งของบริษัทนั้น คุณจะได้รับสิทธิ์ต่างๆ เช่น การรับปันผลหรือการออกเสียงในที่ประชุมผู้ถือหุ้น โดยขึ้นอยู่กับจำนวนหุ้นที่คุณถือ

2. ราคาหุ้น (Stock Price)

ราคาหุ้นคือมูลค่าของหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ราคาจะเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาตามอุปสงค์และอุปทาน หากมีคนต้องการซื้อหุ้นมากกว่าคนขาย ราคาจะเพิ่มขึ้น และในทางกลับกัน หากคนขายมากกว่าคนซื้อ ราคาจะลดลง

3. ปันผล (Dividend)

ปันผลคือกำไรส่วนหนึ่งที่บริษัทจ่ายให้ผู้ถือหุ้น บริษัทส่วนใหญ่มักจ่ายปันผลรายไตรมาสหรือรายปี ซึ่งถือเป็นผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้น

4. วันประกาศปันผล (Declaration Date)

วันนี้คือวันที่บริษัทประกาศจ่ายปันผล โดยจะระบุจำนวนเงินปันผลต่อหุ้นและวันที่เกี่ยวข้องอื่นๆ

5. วันจ่ายปันผล (Payment Date)

วันที่บริษัทโอนเงินปันผลเข้าบัญชีผู้ถือหุ้น หากคุณมีชื่อในทะเบียนผู้ถือหุ้นก่อนวันสำคัญที่เรียกว่า "วันปิดสมุดทะเบียน" คุณจะได้รับปันผล

6. วันปิดสมุดทะเบียน (Record Date)

วันนี้คือวันที่บริษัทตรวจสอบรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิ์ได้รับปันผล หากคุณถือหุ้นในวันนี้ คุณจะได้รับปันผลในรอบนั้น

7. วัน ex-dividend (Ex-Dividend Date)

วัน ex-dividend คือวันที่หุ้นเริ่มซื้อขายโดยไม่มีสิทธิ์รับปันผล หากคุณซื้อหุ้นในวันนี้หรือหลังจากนี้ คุณจะไม่ได้รับปันผลรอบนั้น

8. กำไรต่อหุ้น (Earnings Per Share: EPS)

EPS แสดงถึงกำไรสุทธิต่อหุ้น ยิ่ง EPS สูง แสดงว่าบริษัทมีกำไรมาก ซึ่งอาจช่วยผลักดันราคาหุ้นให้สูงขึ้น

9. อัตราส่วน P/E (Price-to-Earnings Ratio)

P/E Ratio เป็นตัวชี้วัดที่ใช้เปรียบเทียบราคาหุ้นกับกำไรต่อหุ้น (EPS) ช่วยประเมินว่าหุ้นนั้นถูกหรือแพงเมื่อเทียบกับกำไร

10. หุ้นสามัญ (Common Stock)

หุ้นสามัญให้สิทธิ์ในการออกเสียงในที่ประชุมและรับปันผล แต่หากบริษัทล้มละลาย ผู้ถือหุ้นสามัญจะได้รับเงินคืนหลังจากผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิ์

11. หุ้นบุริมสิทธิ์ (Preferred Stock)

หุ้นบุริมสิทธิ์ให้สิทธิ์รับปันผลก่อนหุ้นสามัญ และได้รับเงินคืนก่อนหากบริษัทล้มละลาย แต่ส่วนใหญ่มักไม่มีสิทธิ์ออกเสียง

12. ตลาดหลักทรัพย์ (Stock Exchange)

ตลาดหลักทรัพย์เป็นสถานที่ซื้อขายหุ้น เช่น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) หรือ NASDAQ ในสหรัฐฯ

13. โบรกเกอร์ (Broker)

โบรกเกอร์คือผู้ช่วยในการซื้อขายหุ้น โดยจะคิดค่าบริการหรือค่าคอมมิชชันในการทำธุรกรรม

14. คำสั่งซื้อ/ขาย (Order)

คำสั่งซื้อ/ขายคือการแจ้งโบรกเกอร์ให้ซื้อหรือขายหุ้น โดยคำสั่งมีหลายประเภท เช่น

• Market Order: ซื้อ/ขายทันทีในราคาปัจจุบัน
• Limit Order: ซื้อ/ขายในราคาที่กำหนดหรือดีกว่า
• Stop Order: ซื้อ/ขายเมื่อราคาหุ้นถึงจุดที่กำหนด

15. พอร์ตโฟลิโอ (Portfolio)

พอร์ตโฟลิโอคือการรวมสินทรัพย์ลงทุนทั้งหมดของคุณ เช่น หุ้น กองทุนรวม หรือสินทรัพย์อื่นๆ การกระจายการลงทุนช่วยลดความเสี่ยง

16. กำไร/ขาดทุน (Profit/Loss)

กำไรเกิดขึ้นเมื่อคุณขายหุ้นในราคาสูงกว่าราคาที่ซื้อมา ส่วนขาดทุนคือการขายหุ้นในราคาที่ต่ำกว่า

17. หุ้นปันผล (Dividend Stock)

หุ้นปันผลเป็นหุ้นของบริษัทที่จ่ายปันผลสม่ำเสมอ เช่น บริษัทในอุตสาหกรรมพลังงานหรืออสังหาริมทรัพย์

18. หุ้นเติบโต (Growth Stock)

หุ้นเติบโตเป็นหุ้นของบริษัทที่มุ่งเน้นการขยายธุรกิจแทนการจ่ายปันผล ราคาหุ้นมักมีโอกาสเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต

19. หุ้น cyclical และ non-cyclical

• หุ้น cyclical: หุ้นที่ขึ้นลงตามสภาพเศรษฐกิจ เช่น หุ้นท่องเที่ยว
• หุ้น non-cyclical: หุ้นที่ได้รับผลกระทบน้อย เช่น หุ้นสินค้าจำเป็น

20. การวิเคราะห์พื้นฐาน (Fundamental Analysis)

การวิเคราะห์นี้ดูที่ปัจจัยพื้นฐาน เช่น กำไร สินทรัพย์ และหนี้สิน เพื่อประเมินมูลค่าหุ้น

21. การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis)

เป็นการใช้กราฟและข้อมูลในอดีตเพื่อคาดการณ์แนวโน้มราคาหุ้นในอนาคต

สรุป
การลงทุนในหุ้นไม่ยากอย่างที่คิด หากคุณเริ่มต้นด้วยการเข้าใจศัพท์พื้นฐานและทำความรู้จักกับกลไกของตลาดหุ้น อย่าลืมกระจายการลงทุนเพื่อจัดการความเสี่ยง และศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุน เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนในระยะยาว!

หวังว่าคุณจะรู้สึกมั่นใจและพร้อมก้าวสู่โลกการลงทุน!